|
สรุปเนื้อหาจากวิทยากรหลัก SIGNIS WORLD CONGRESS วันที่ 19 ตุลาคม 2552
Keynote Speaker: Dr. Zilda Arns Neumann
ดร.ซิลดา เป็นผู้ก่อตั้งและประสานงาน Childrens Pastoral Action
ซึ่งเป็นองค์กรภายใต้สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งบราซิล CPAได้มีส่วนช่วยเหลือเด็กๆจำนวนถึง 1,816,261 คน ในแหล่งชุมชนที่ยากไร้ทั่วบราซิล ซึ่งรวมถึงสตรีมีครรภ์จำนวนถึง 94,987 คน จาก 1,407,743 ครัวเรือน
ดร.ซิลดา ได้เริ่มการบรรยายโดยเน้นว่า พวกเราทุกคน ณ ที่นี้ ได้รับกระแสเรียกในการร่วมกันประกาศข่าวดีจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
โดยหน้าที่ของเราต้องมีส่วนร่วมมือกันทำให้ข่าวดีเหล่านี้ ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมโดยผ่านการกระทำสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นในสังคม กระบวนการสร้างสันติเริ่มต้นขึ้นในจิตใจโดยอาศัยพื้นฐานแห่งความรัก
ซึ่งจะเริ่มก่อตัวขึ้นและหยั่งรากฐานในครรภ์มารดาและเริ่มต้นพัฒนาขึ้นตั้งแต่เยาว์วัย โดยที่การสร้างพื้นฐานที่เข้มแข็งย่อมก่อให้เกิดภราดรภาพในสังคมในที่สุด
และหากเราเริ่มต้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรตั้งแต่ในครรภ์มารดา นั่นหมายความว่าเด็กๆก็จะได้รับการดูแลอย่างดีและได้รับการปลูกเพาะเมล็ดพันธ์แห่งสันติและความหวังต่อไป เด็กๆคือความบริสุทธิ์ ความสมบูรณ์แบบ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ดั่งที่พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงตรัสไว้ว่า เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับเป็นเหมือนเด็กเล็ก ๆ ท่านจะเข้าอาณาจักรสวรรค์ไม่ได้เลย (มธ.18: 3) และ แต่พระเยซูเจ้าทรงเรียกเด็กเล็กๆเหล่านั้นเข้ามาตรัสว่า ปล่อยให้เด็กเล็กๆมาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เป็นเหมือนเด็กเล็กเหล่านี้ (ลก.18: 16)
การเริ่มต้นของ CPA เกิดขึ้นเมื่อ 26 ปีที่แล้ว งานของ CPA นับว่าเป็นกรณีศึกษาที่ใช้การสื่อสารภาคสังคมช่วยงานการพัฒนาสิทธิเด็กและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์
งานของ CPA ได้รับการปลูกฝังเมล็ดพันธ์แห่งความรัก ณ เมือง Florestopolis ในรัฐ Parana ซึ่งโครงการของ CPA ได้ช่วยชุมชนยากจนถึง 42,000 ชุมชน ในเขตงานอภิบาล 7,000 แห่ง เครือข่ายการทำงานของ CPA ที่มีอยู่ทั่วบราซิลนั้นบุคลากรส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัคร ซึ่งมีจำนวนถึง 260,000 คน โดยที่ร้อย 92% เป็นสตรี เฉลี่ยแล้วอาสาสมัครแต่ละคนอุทิศเวลาประมาณ 24 ชม.ต่อสัปดาห์ ช่วยกันให้ความรู้กับแม่และสมาชิกในครอบครัวผู้ยากไร้ วัตถุประสงค์ในการให้การศึกษาของโครงการ CPA คือ (1) มุ่งให้ความรู้แก่มารดาและสมาชิกในครอบครัวผู้ยากไร้ เพื่อลดอัตราเสี่ยงของการเสียชีวิตของทารกและสภาวะการขาดสุขลักษณะ ความพิการและสภาวะการขาดสารอาหารในเด็ก (2) ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพแบบองค์รวมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาจนถึงอายุ 6 ปี
ดร.ซิลดาได้เน้นว่า ช่วงเยาว์วัยเป็นช่วงชีวิตที่สำคัญที่สุดในการปลูกฝังคุณค่าชีวิต วัฒนธรรม ความเชื่อ การสร้างประชากรที่มีคุณภาพ
สิ่งเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาชีวิตต่อไป
การเริ่มงานในช่วงแรกของ CPA ดร.ซิลดา ทำงานด้วยความยากลำบาก แต่อย่างไรก็ตาม ดร.ซิลดาเชื่อมั่นและศรัทธาว่า สิ่งที่เธอทำ คือ แผนงานที่พระเป็นเจ้าได้ทรงเตรียมไว้ ดร.ซิลดา ทำงานในระบบสาธารณสุข มีประสบการณ์ทางการแพทย์และสุขอนามัยเป็นระยะเวลานาน สิ่งเหล่านี้เองจึงเป็นพื้นฐานช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น ด้วยความร้อนรนและกระตือรือร้น ดร.ซิลดา ได้เริ่มต้นการทำงานโดยตั้งคำถามถึง วิธีการที่จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของเด็กๆในประเทศได้อย่างไร?
ปัญหาที่สำคัญของประชาชนในชุมชนผู้ยากไร้ คือ การขาดความรู้และความเข้าใจเรื่อง สุขอนามัย ปัญหาทางโภชนศาสตร์ การขาดความรู้ถึงการรับประทานอาหารให้มีประโยชน์ เพื่อบำรุงทารกในครรภ์ และปัญหาการขาดสารอาหาร เป็นต้น
ดร.ซิลดา ได้นำเรื่องการเลี้ยงอาหารแก่ประชาชนผู้เฝ้าฟังพระเยซูคริสต์เทศนาเป็นบทเรียนและแรงบันดาลใจในการทำงาน ดร.ซิลดา มักรำพึงกับตัวเองเสมอว่า สาเหตุของการเสียชีวิตของเด็กๆจำนวนนับล้านในแต่ละปีเกิดจากสาเหตุง่ายๆ และเป็นสิ่งที่น่าจะสามารถป้องกันได้ และ เพราะอะไรเด็กๆจึงกลายเป็นบุคคลที่ก้าวร้าวรุนแรง หรือกลายเป็นอาชญากรในที่สุดเมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น?
สภาพความแร้นแค้นและทุกข์ระทมของชุมชนยากจนในบราซิลนั้น สามารถเห็นเป็นภาพสะท้อนได้ในทุกๆวัน อาทิ การที่แม่หยุดการให้นมตามะรรมชาติ และใช้นมผงชงด้วยน้ำที่ไม่ค่อยสะอาดนัก ทารกไม่ได้รับการเอาใจใส่ด้านสุขภาพอนามัยและโภชนาการ ไม่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรค เด็กๆ ถูกทำร้ายทุบตีจากผู้เป็นพ่อแม่ และจากการวิจัยสำรวจขององค์กร WHO ในปี ค.ศ. 1994 พบว่า เด็กๆ ที่เริ่มต้นถูกทำร้ายตั้งแต่ขวบปีแรกของชีวิต มีแนวโน้มที่จะเป็นเด็กที่ก้าวร้าวรุนแรง และก้าวสู่การเป็นอาชญากรในที่สุด
ดร.ซิลดา ได้นำเสนอวิธีการที่ CPA ได้ทำตลอด 25 ปี
และนำเสนอวิธีการนี้ต่อพระศาสนจักรท้องถิ่นเพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวคือ วิธีการที่เธอประยุกต์จากวิธีการที่พระเยซูได้ทรงเลือกใช้ในการประกาศพระวรสารเมื่อ 2000 กว่าปีก่อน นั่นคือ (1) การรวบรวมและจัดระบบประชาชนในชุมชนต่างๆ (2)
การหาข้อมูลและตรวจสอบจำนวนและรายชื่อครอบครัวที่มีสตรีมีครรภ์และเด็กเล็ก
สำหรับผู้นำชุมชนนั้น โครงการ CPA ได้จัดทำโครงการฝึกอบรมในความรู้ความเข้าใจทางด้านสุขอนามัย โภชนาการ สาธารณสุขเบื้องต้น และนอกจากนี้การอบรมจิตตาภิบาลก็เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการทำงานในโครงการดังกล่าวนี้ด้วย ดังนั้นผู้นำชุมชนจึงเป็นผู้ให้ความรู้และช่วยเผยแพร่จิตตารมณ์ทางด้านความรักและประสานงานกับครอบครัวและสมาชิกในครอบครัวที่สำคัญ
ภายหลังจากการประยุกต์ใช้วิธีการตามแบบฉบับขององค์พระคริสตเจ้า ปัจจุบัน
CPA ได้ประสบความสำเร็จในการเข้าถึงประชาชน ใน 40,000 ชุมชน และเขตงานอภิบาลถึง 7,000 แห่ง จากสังฆมณฑลทั้งสิ้น 272 เขต โดยเป็นไปทีละเล็กละน้อย แนวทางการทำงานด้วยวิธีนี้ได้เผยแพร่ไปสู่ประเทศต่างๆ ถึง 19 ประเทศ
CPA ได้พัฒนายุทธศาสตร์ในการดำเนินงานการสื่อสารเพื่อพัฒนาชุมชน โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ (1) ระดับปัจเจกบุคคล (2) ระดับชุมชน และ (3) ระดับกลุ่มมวลชน CPA ใช้วิธีการสื่อสารให้ความรู้อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบเพื่อส่งข้อมูลข่าวสาร ความรู้ เพื่อจูงใจ และส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง
ในภาคการสื่อสารระดับปัจเจกบุคคล CPA ได้ดำเนินการในกิจกรรมการเยี่ยมบ้านในชุมชนต่างๆ ที่มีสตรีมีครรภ์และเด็กๆ ตลอดพื้นที่บริเวณลุ่มแม่น้ำอเมซอน
ดร.ซิลดา ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติจัดทำโครงการ ชีวิตที่ปราศจากความรุนแรง CPA ได้กำหนดคำขวัญของโครงการว่า สันติสุขเริ่มต้นที่บ้าน โครงการได้ผลิตสื่อแผ่นพับเพื่อรณรงค์โครงการดังกล่าว แจกจ่ายไปถึงจำนวน 6,000,000 ชุด แผ่นพับดังกล่าวคือ บัญญัติ 10 ประการเพื่อการสร้างสันติในครอบครัว อีกทั้งยังมีกิจกรรมสัมมนาในโรงเรียนและชุมชนจากเหนือจรดใต้ของประเทศบราซิล
การให้การศึกษาและการสื่อสารในระดับกลุ่มชุมชน CPA ได้จัดกิจกรรมขึ้นในทุกๆ เดือน ให้กับชุมชนจำนวนนับพันแห่ง ชื่อโครงการคือ วันเฉลิมฉลองคุณค่าของชีวิต กิจกรรมในวันดังกล่าวมุ่งเน้นการส่งเสริมความเข้มแข็งให้ชีวิตฝ่ายจิตศรัทธาและมิตรภาพระหว่างครอบครัวในชุมชน การจัดงานประกอบด้วยกิจกรรมให้ความรู้แก่แม่และเด็กตลอดจนกิจกรรมสันทนาการ ซึ่งเป็นโอกาสที่บรรดาแม่ๆ ได้ร่วมแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน อาทิ การประกอบอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงในราคาย่อมเยา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการประชุมประจำเดือนเพื่อการติดตาม และประเมินผลการทำงานของบรรดาผู้นำชุมชนอีกด้วย
การทำงานของ CPA บรรลุความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยในที่สุด CPA สามารถควบคุมสภาวะการขาดสมดุลของโภชนาการได้ จากอัตราสภาวะปัญหาทางโภชนาการที่เคยมีสูงถึงร้อยละ 50% ในช่วงเวลาเริ่มต้นโครงการ อัตราดังกล่าวลดลงมาสู่ร้อยละ 3.1% ในปัจจุบัน และอัตราการเสียชีวิตของทารกลดน้อยลงอย่างมาก ลดเหลือเพียงอัตราส่วน 13:1,000 ในเขตพื้นที่ชุมชนที่ CPA ได้นำโครงการช่วยเหลือไปปฏิบัติการ ในปัจจุบันโครงการของ CPA ได้รับการสนับสนุนจาก กระทรวงสาธารณสุข บราซิล, UNICEF, ธนาคาร HSBC และองค์กรภาคธุรกิจอื่นๆ โครงการจึงสามารถทำโครงการการฝึกอบรมสุขอนามัย โภชนาการ การพัฒนาการศึกษา และการพัฒนาคุณภาพประชากรได้อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
ดร.ซิลดาได้บูรณาการการใช้สื่อเพื่อเป็นเครื่องมือในการทำงานเพื่อพัฒนาสิทธิเด็กดังต่อไปนี้
1. การใช้สื่อสิ่งพิมพ์ อาทิ แผ่นพับ โปสเตอร์ ฯลฯ
2. การใช้สื่อวิทยุ อาทิ การจัดรายการเพื่อให้ความรู้
3. โครงการรณรงค์ในหัวข้อต่างๆ และการใช้สื่อวีดีทัศน์ในโครงการ
ดร.ซิลดาได้นำเสนอแนวคิด ในการนำแนวคิดการพัฒนาคุณค่าทางด้านจิตใจเข้าสู่ทุกในทุกมิติใน กระบวนการของการพัฒนา การพัฒนาชุมชน สังคม และประชากร กล่าวคือ การพัฒนาแบบบูรณาการนั้นต้องประกอบด้วย การพัฒนาทางกาย สุขภาพ การพัฒนาทางสังคม การพัฒนาจากจิต การพัฒนาทางจิตวิญญาณ
ดร.ซิลดา เชื่อมั่นว่าวิธีการแก้ไขปัญหาของสังคมนั้นเกี่ยวข้องกับการแสวงหาวิธีการลดความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นของสังคม การกำจัดการคอรัปชั่น การส่งเสริมความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม อัตราการเข้าถึงของประชากรในระบบบริการสาธารณสุข และคุณภาพของระบบการศึกษา การส่งเสริมให้มีการประสานงานและช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศต่างๆ และการอนุรักษ์และปกป้องสิ่งแวดล้อม
ดังที่ได้บัญญัติไว้ในพระสมณสาส์น CARITAS IN VERITATE ขององค์สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ธรรมชาติและสรรพสิ่งสร้างคือของขวัญล้ำค่าจากพระเจ้า จงใช้ด้วยความรับผิดชอบ โลกได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยสัญญาณของภาวะโลกร้อน เรากำลังได้รับการตักเตือนจากภัยธรรมชาติที่ทวีจำนวนและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง สภาวะวิกฤตการณ์เศรษฐกิจระดับโลก แสดงให้เราเห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างประเทศต่างๆทั่วโลก สิ่งเหล่านี้เรียกร้องภราดรภาพจากนานาชาติ ความเป็นพี่น้อง เพื่อสรรสร้างความเจริญก้าวหน้าและสันติสุขของสากลโลก
เขียนโดย signisworldcongress09 ติดตามสรุปการประชุม SIGNIS WORLD CONGRESS 2009 ภาคภาษาไทยได้ที่ www.signisthailand.blogspot.com
|
|